Menu
สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย
THAI FERTILIZER AND AGRICULTURAL SUPPLIES ASSOCIATION
๑๐๖ ถนนฉิมพลี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ๑๐๑๗๐ โทรศัพท์/โทรสาร ๐ ๒๔๔๘ ๗๖๑๖ E-mail: thaifertasso@gmail.com
ประกาศเรื่อง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ที่ สปธ.035/2565
สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “องค์กร” ตระหนักและให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการของสมาคมการค้าปุ๋ย และธุรกิจการเกษตรไทย และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในเรื่องการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ฉบับนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านผู้ใช้บริการขององค์กรได้ทราบรายละเอียดของวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย รวมเรียกว่า “ประมวลผล” ข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิต่างๆ ของท่านภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
ทั้งนี้ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ในประกาศนี้ องค์กร ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งหมายความว่า องค์กรเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลคำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“องค์กร” หมายความถึง สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย
“ผู้ปฏิบัติงาน” หมายความถึง เจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานของสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย
“ผู้ใช้บริการขององค์กร” ได้แก่
สมาชิก” หมายความถึง สมาชิกตามข้อบังคับของสมาคม คือ
1. สมาชิกสามัญ ได้แก่ นิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจเกี่ยวกับการค้าปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และอุปกรณ์ทางการเกษตร
2. สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจในทางอุตสาหกรรม หรือการเงิน หรือกิจการอื่นใดที่เกี่ยวเนื่องหรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินกิจการค้าปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
3. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลที่คณะกรรมการเห็นว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ หรือเป็นผู้มีอุปการะคุณแก่สมาคม
“ผู้ใช้งานเว็บไซต์” หมายความถึง ผู้ที่เข้าใช้งานเว็บไซต์ของสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย www.thaifert.com
“ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ” หมายความถึง เจ้าหน้าที่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการขององค์กรที่นอกเหนือจาก สมาชิก และผู้ใช้งานเว็บไซต์
องค์กรดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1.1 องค์กรเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้ฐานกฎหมาย ดังต่อไปนี้
1.1.1 ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่การดำเนินกิจการหรือการใช้อำนาจที่ได้มอบให้แก่องค์กร ทั้งนี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ.2509 และข้อบังคับสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย
1.1.2 ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายขององค์กรหรือของบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้เพื่อการรับสมัครสมาชิก และการออกเอกสารรับรองต่างๆ การติดต่อประสานงาน และแจ้งข้อมูลข่าวสาร
1.1.3 ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญา
1.1.4 ได้รับความยินยอมที่สมบูรณ์จากท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมของท่าน เช่น ข้อมูลการออกใบรับรองต่างๆ หรือการจัดทำสื่อโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์องค์กร
2. วัตถุประสงค์ขององค์กร ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2.1 เพื่อประโยชน์ในทางการค้าและเศรษฐกิจโดยทั่วไป รวบรวมสถิติ เผยแพร่ข่าวสารการค้า การศึกษา สำรวจ ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับภารกิจข้างต้น
2.2 ออกใบรับรองต่างๆ
2.3 จัดงานแสดงสินค้าหรือบริการ จัดงานแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และสิ่งประดิษฐ์ด้านต่างๆ จัดงานแสดงนิทรรศการทางการค้าหรือบริการ
2.4 เป็นสถาบันอนุญาโตตุลาการชี้ขาดข้อพิพาททางการค้าของสมาชิก
2.5 ให้คำปรึกษา ข้อแนะนำทางการค้าและให้การปกป้องผลประโยชน์โดยธรรมแก่สมาชิกเกี่ยวกับการค้า และช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจของสมาชิก
2.6 ให้คำปรึกษาและเสนอข้อแนะนำแก่ภาครัฐในการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
2.7 ประสานงานและผลักดันกิจกรรมร่วมกับภาครัฐเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย
2.8 ให้การศึกษาอบรม ให้ความรู้และทักษะในด้านการค้าและการเกษตร
2.9 ช่วยเหลือและส่งเสริมการเกษตร และสาธารณสงเคราะห์
2.10 ส่งเสริมความสามัคคี ระหว่างผู้ประกอบวิสาหกิจที่เป็นสมาชิก
2.10.1 ส่งเสริมฐานะ และรักษาเกียรติของสมาชิก
2.10.2 ปฏิบัติการอื่นๆ ตามแต่จะมีกฎหมายระบุให้เป็นหน้าที่ของสมาคม
2.10.3 สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่องค์กรเก็บรวบรวม
3.1 แหล่งข้อมูลและรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม มีดังนี้
  1. ข้อมูลที่เก็บโดยตรงผ่านการกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ www.thaifert.com การกรอกใบสมัครสมาชิก หรือการที่ท่านส่งข้อมูลบุคคลของท่านให้แก่องค์กรโดยตรง
    ชื่อ-นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ รูปถ่าย สัญชาติ ตำแหน่ง สังกัด ที่อยู่ ที่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ ไอดีไลน์ เลขบัตรประจำตัวประชาชน อายุงานคงเหลือ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประวัติการฝึกอบรม ประวัติการสอนและความเชี่ยวชาญ เลขที่บัญชีธนาคารของบุคคลหรือหน่วยงาน ข้อมูลผู้ประสานงาน เป็นต้น
  2. ข้อมูลที่เก็บโดยการใช้เทคโนโลยีตรวจจับหรือติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ www.thaifert.com ของท่าน
    เว็บไซต์คุกกี้ ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการใช้ Application, Device ID, Browsing history
  3. ข้อมูลที่เก็บรวบรวมระหว่างการทำกิจกรรม
    ข้อมูลการทดสอบความรู้ก่อน-หลังการอบรม ภาพถ่ายวีดีโอกิจกรรมการอบรม ประวัติส่วนตัวที่เก็บเพิ่มเติมเพื่อจัดทำทำเนียบรุ่น ผลสำรวจความพึงพอใจต่อการอบรม ผลสำรวจความพึงพอใจต่อวิทยากร เป็นต้น
แหล่ง/วิธีการเก็บ รายการข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลที่เก็บโดยตรงผ่านการกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ www.thaifert.com การกรอกใบสมัครสมาชิก หรือการที่ท่านส่งข้อมูลบุคคลของท่านให้แก่องค์กรโดยตรง ชื่อ-นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ รูปถ่าย สัญชาติ ตำแหน่ง สังกัด ที่อยู่ ที่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ ไอดีไลน์ เลขบัตรประจำตัวประชาชน อายุงานคงเหลือ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประวัติการฝึกอบรม ประวัติการสอนและความเชี่ยวชาญ เลขที่บัญชีธนาคารของบุคคลหรือหน่วยงาน ข้อมูลผู้ประสานงาน เป็นต้น
2. ข้อมูลที่เก็บโดยการใช้เทคโนโลยีตรวจจับหรือติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ www.thaifert.com เว็บไซต์คุกกี้ ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการใช้ Application, Device ID, Browsing history
3. ข้อมูลที่เก็บรวบรวมระหว่างการทำกิจกรรม ข้อมูลการทดสอบความรู้ก่อน-หลังการอบรม ภาพถ่ายวีดีโอกิจกรรมการอบรม ประวัติส่วนตัวที่เก็บเพิ่มเติมเพื่อจัดทำทำเนียบรุ่น ผลสำรวจความพึงพอใจต่อการอบรม ผลสำรวจความพึงพอใจต่อวิทยากร เป็นต้น
3.2 จุดประสงค์การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล
  1. พิจารณาคัดเลือกผู้อบรม สัมมนา การสมัครสมาชิก การออกใบรับรองต่างๆ งานแสดงสินค้า และงานบริการอื่นๆ
    ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ศาสนา ตำแหน่ง สังกัด อายุ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
  2. จัดทำรายชื่อ ประวัติย่อวิทยากรของหลักสูตร ทำเนียบรุ่น เพื่อเผยแพร่ให้แก่ผู้เข้าอบรมผ่านช่องทางต่างๆ
    ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง ความเชี่ยวชาญ สังกัด อายุ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ วันเดือนปีเกิด รูปถ่าย
  3. ประมวลผลและจัดทำรายงานผลการอบรมในแต่ละหลักสูตร กิจกรรม เพื่อใช้เสนอขอรับการประเมิน เป็นข้อมูลในการพัฒนาปรับปรุงการจัดอบรม รวมทั้งราย งานผลให้แก่หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการที่เกี่ยวข้อง
    ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง สังกัด ภาพถ่าย ผลการทดสอบความรู้ ผลสำรวจความคิดเห็น หรือความพึงพอใจต่อการจัดฝึกอบรม ผลการทดสอบความรู้ ผลสำรวจความคิดเห็นต่อการอบรม
  4. จัดทำวีดีโอที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม เช่น การอบรม การสัมมนา และอื่นๆ เพื่อเผยแพร่ให้ผู้เข้าร่วมและผู้สนใจในกิจกรรมฯได้เรียนรู้ย้อนหลัง
    คลิปวีดีโอเกี่ยวข้องกับกิจกรรม เช่น การอบรม การสัมมนา และอื่นๆ
  5. จัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรม ซึ่งมีผู้เข้าอบรม หรือวิทยากรที่ปรากฎในส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อ เพื่อเผยแพร่ในช่องทางการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ขององค์กร
    คลิปวีดีโอกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรม ภาพถ่ายเทปบันทึกเสียง
  6. เบิกจ่ายค่าลงทะเบียนร่วมกิจกรรมฯ และค่าตอบ แทนวิทยากร
    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ เลขที่บัญชีธนาคาร
  7. ติดต่อประสานงานและแจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ
    ไอดีไลน์ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ ข้อมูลผู้ประสาน งาน
  8. บริหารจัดการการฝึกอบรมหรือกิจกรรมภายในอื่นๆ ขององค์กร
    ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำเนินงานตามกฎหมายขององค์กร
จุดประสงค์การใช้ข้อมูล รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้
1. พิจารณาคัดเลือกผู้อบรม สัมมนา การสมัครสมาชิก การออกใบรับรองต่างๆ งานแสดงสินค้า และงานบริการอื่นๆ ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ศาสนา ตำแหน่ง สังกัด อายุ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
2. จัดทำรายชื่อ ประวัติย่อวิทยากรของหลักสูตร ทำเนียบรุ่น เพื่อเผยแพร่ให้แก่ผู้เข้าอบรมผ่านช่องทางต่างๆ ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง ความเชี่ยวชาญ สังกัด อายุ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ วันเดือนปีเกิด รูปถ่าย
3. ประมวลผลและจัดทำรายงานผลการอบรมในแต่ละหลักสูตร กิจกรรม เพื่อใช้เสนอขอรับการประเมิน เป็นข้อมูลในการพัฒนาปรับปรุงการจัดอบรม รวมทั้งราย งานผลให้แก่หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการที่เกี่ยวข้อง ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง สังกัด ภาพถ่าย ผลการทดสอบความรู้ ผลสำรวจความคิดเห็น หรือความพึงพอใจต่อการจัดฝึกอบรม ผลการทดสอบความรู้ ผลสำรวจความคิดเห็นต่อการอบรม
4. จัดทำวีดีโอที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม เช่น การอบรม การสัมมนา และอื่นๆ เพื่อเผยแพร่ให้ผู้เข้าร่วมและผู้สนใจในกิจกรรมฯได้เรียนรู้ย้อนหลัง คลิปวีดีโอเกี่ยวข้องกับกิจกรรม เช่น การอบรม การสัมมนา และอื่นๆ
5. จัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรม ซึ่งมีผู้เข้าอบรม หรือวิทยากรที่ปรากฎในส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อ เพื่อเผยแพร่ในช่องทางการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ขององค์กร คลิปวีดีโอกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรม ภาพถ่ายเทปบันทึกเสียง
6. เบิกจ่ายค่าลงทะเบียนร่วมกิจกรรมฯ และค่าตอบ แทนวิทยากร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ เลขที่บัญชีธนาคาร
7. ติดต่อประสานงานและแจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ไอดีไลน์ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ ข้อมูลผู้ประสาน งาน
8. บริหารจัดการการฝึกอบรมหรือกิจกรรมภายในอื่นๆ ขององค์กร ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำเนินงานตามกฎหมายขององค์กร
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ต่อประเภทของบุคคลและช่องทาง ดังต่อไปนี้
4.1 หน่วยงานต้นสังกัดของท่าน เช่น กรณีหน่วยงานร้องขอเป็นหนังสือมายังองค์กรขอให้จัดส่งรายงานข้อมูลผู้เป็นบุคคลากรในสังกัดของหน่วยงาน เป็นต้น
4.2 เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือบุคคลอื่นเพื่อการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด คำสั่งของผู้มีอำนาจ คำสั่งหรือหมายศาล เป็นต้น
4.3 หน่วยงานเครือข่าย คู่สัญญา ผู้ให้บริการหรือบุคคลผู้เกี่ยวข้องหรือมีความจำเป็นในการให้บริการขององค์กรซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลของท่าน เช่น ผู้ให้บริการระบบฐานข้อมูล ผู้จัดส่งเอกสารหรือผู้พัฒนาเว็บไซต์ เป็นต้น
ทั้งนี้ กรณีที่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน องค์กรจะดำเนินการขอความยินยอมตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
5.1 สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่องค์กรเก็บรวบรวมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่กรณีที่องค์กรมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล และกรณีที่การขอเข้าถึงและรับสำเนาของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
5.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.3 สิทธิในการขอให้องค์กรระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
5.3.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่องค์กรทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
5.3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
5.3.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ขององค์กรได้แจ้งแก่ท่านในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้องค์กรเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไป เพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
5.3.4 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่องค์กรกำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณี ที่องค์กรมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น องค์กรสามารถแสดงให้เห็นว่า การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อ การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจขององค์กร
5.5 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิให้องค์กรลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายในเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
องค์กรเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามนโยบายการเก็บรักษา การลบหรือการทำลาย ข้อมูลส่วนบุคคล (Data Retention and Disposal Policy) เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว องค์กรจะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่ท่าน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่องค์กรมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ของท่าน เช่น การจัดทำและเก็บรักษาทำเนียบผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ หรือใบประกาศณียบัตร ของท่านเพื่อเป็นหลักฐานการเข้าร่วมกิจกรรมฯของท่าน หรือในกรณีที่ท่านได้ใช้สิทธิ หรือมีข้อพิพาท หรือคดีความเกี่ยวกับกิจกรรมฯ การเป็นวิทยากรหรือการใช้บริการของท่าน องค์กรขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าภารกิจดังกล่าวจะมีข้อกำหนดให้ยกเลิกหรือข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่ง หรือคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
7. คุกกี้
องค์กรเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ ความดูแลขององค์กร ได้แก่ www.thaifert.com บนอุปกรณ์ของท่าน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้าน ความปลอดภัยในการให้บริการขององค์กร และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการขององค์กร และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ ขององค์กรให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์(Web Browser)ของท่าน
8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
องค์กรและสำนักงานมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการเพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและ แนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy)ของสำนักงาน
นอกจากนี้ สำนักงานได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(Privacy Policy)ขึ้น โดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความลับ(Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน(Integrity)และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability)ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จัดให้มีการทบ ทวนนโยบายดังกล่าว รวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามความเหมาะสม
9. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและผู้แทน
องค์กรอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อได้รับคำร้องขอจากท่าน ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายของท่าน
ในกรณีที่ท่าน ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย มีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใดๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล องค์กรจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ องค์กรอาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฎชื่อ หรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้
10. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
ในกรณีที่มีความจำเป็น องค์กรอาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม(ผู้ประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคล)ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามขององค์กร ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าว อาจเสนอบริการในลักษณะต่างๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล(Hosting)รับงานบริการช่วง(Outsourcing) หรือ เป็นผู้ให้บริการคลาวด์(Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น องค์กรจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ขององค์กรในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วน บุคคลและของบุคคลที่องค์กรมอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดราย ละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่องค์กรมอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ขอบเขตใน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมี หน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งขององค์กรเท่านั้น โดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
11. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
เว็บไซต์ขององค์กรอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือ บริการดังกล่าว อาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากประกาศนี้ องค์กรขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ องค์กรไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตราการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าว และไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
12. การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
องค์กรได้กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่และบุคคลเฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้า ถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยองค์กรจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่และบุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
13. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
องค์กรอาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.thaifert.com โดยมีวันที่ของเวอร์ชั่นล่าสุดกำกับไว้ อย่างไร ก็ดี องค์กรขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือว่าเป็นการรับ ทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศ ฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว ถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
14. การติดต่อสอบถาม
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่
14.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล(Data Controller)
ทางไปรษณีย์ : สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย 106 ถนนฉิมพลี
แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 เบอร์โทรศัพท์ 02-4487616
14.2 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(Data Protection Officer : DPO
ทางไปรษณีย์ : สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย 106 ถนนฉิมพลี
แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 เบอร์โทรศัพท์ 02-4487616
E-mail : thaifertasso@gmail.com
นโยบายฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2565 เป็นต้นไป
(นายกองเอก เปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช)
นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย